การตรวจวัดคลื่นรังสีพืช-ดิน-น้ำ

     พืช ดิน และน้ำ เป็นวัตถุปกคลุมผิวโลกเป็นส่วนใหญ่ การสะท้อนพลังงานที่ความยาวช่วงคลื่นต่างกันของพืช ดิน และน้ำ จะทำให้สามารถแยกประเภทของวัตถุชนิดต่างๆได้

ลายเซ็นช่วงคลื่นจากพืชที่สมบูรณ์ในช่วงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต่างๆ กัน

ความสัมพันธ์ของการสะท้อนแสงของพืช ดิน และน้ำ



1. พืชพรรณ
          ค่าการสะท้อนแสงของพืช จะแปรผันไปตามความยาวของช่วงคลื่น การที่จะทราบว่าพืช แต่ละชนิดให้ค่าสะท้อนแสงแตกต่างกันออกไปจะต้องพิจารณาถึงความแตกต่างใน เรื่องสีของรงควัตถุในใบพืชโครงสร้างภายในของพืชและน้ำที่อยู่ในพืช พืชชั้นสูงมักประกอบไปด้วยคลอโรฟิลด์(Chlorophyll) คาโรทีน (Carotene) และแซนโตฟิลด์ (Xanthophyll) ซึ่งมีความสามารถในการดูดกลืนแสงที่มองเห็นได้ เพื่อใช้ในขบวนการสังเคราะห์แสง และเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดรูปแบบการสะท้อนแสงของพืชลักษณะการสะท้อนแสงนี้เรียกว่า “ลายเซ็นช่วงคลื่น” (Spectral Signature) ลายเซ็นช่วงคลื่นของพืชดิน และน้ำ จะมีค่าแตกต่างกันออกไป
          พืชที่สมบูรณ์จะมีการสะท้อนพลังงานต่ำ ในช่วงคลื่นสีน้ำเงินและสีแดง (0.45-0.65 ไมครอน) เนื่องจากมีการดูดกลืนพลังงานเพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสง จึงเรียกช่วงคลื่นนี้ว่าเป็นช่วงคลื่นที่ถูกดูดกลืนโดยคลอโรฟิลด์ (Chlorophyll Absorption Bands) พืชสะท้อนแสงปานกลางในช่วงคลื่นสีเขียวแต่จะสะท้อนพลังงานสูงขึ้นในช่วงคลื่นอินฟราเรดใกล้ (Near Infrared) ซึ่งเป็นผลมาจากโครงสร้างภายใน (Cell Structure) ของพืชทำให้สามารถจำแนกประเภทของพืชได้ นอกจากนี้แล้วชนิดของพืชความหนาแน่นของใบและเรือนยอดก็ยังมีบทบาทต่อการ สะท้อนแสงอีกด้วยพืชที่มีใบหนา เช่น ข้าวโพด ยอมให้การส่งผ่านพลังงานน้อยแต่จะดูดกลืนพลังงานมาก แต่พืชที่มีใบบาง เช่น กะหล่ำแก้ว จะส่งผ่านพลังงานมากแต่มีการดูดกลืนน้อย เป็นต้น ในช่วงคลื่นอินฟราเรดกลาง (1.3- 2.6 ไมครอน) ค่าสะท้อนแสงจากพืชจะลดลงเนื่องจากน้ำในใบพืชจะดูดซับพลังงานในช่วงคลื่นนี้ไว้ (ช่วง1.49, 1.6 และ2.7 ไมครอน) จึงเรียกช่วงคลื่นนี้ว่า “Water Absorption Band”  

2. ดิน 
          ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการสะท้อนแสงของดิน ได้แก่ ความชื้นภายในดิน (Moisture Content) ความหยาบละเอียดของดิน (Soil Texture) เช่น ดินทราย ดินร่วน จะมีความสามารถในการกักเก็บน้ำต่างกันความขรุขระของพื้นผิวดินส่วนผสมของเหล็กออกไซด์ และอินทรีย์วัตถุที่อยู่ในดิน เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น ความชื้นที่อยู่ในดินจะมีผลทำให้ค่าสะท้อนแสงลดลง ดินทรายมีเนื้อหยาบจึงระบายน้ำได้ดีมีความชื้นในดินต่ำ มีผลทำให้การสะท้อนแสงสูงขึ้นส่วนดินที่มีเนื้อละเอียด เช่น ดินเหนียวจะมีการอุ้มน้ำได้ดี มีผลทำให้การสะท้อนแสงลดลงลายเซ็นช่วงคลื่นของดินค่อนข้างจะสม่ำเสมอกว่าลายเซ็นช่วงคลื่นของพืช เช่น ดินแห้งจะมีการสะท้อนแสงสูงในทุกช่วงคลื่น

3. น้ำ
          การสะท้อนพลังงานของน้ำมีลักษณะต่างจากวัตถุอื่นอย่างชัดเจนโดยเฉพาะในช่วง คลื่นอินฟราเรด ทำให้สามารถเขียนขอบเขตของน้ำได้ ลักษณะการสะท้อนพลังงานของน้ำขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำความลึกของน้ำ การดูดกลืนพลังงานของน้ำจะมีค่ามากที่ช่วงคลื่นอินฟราเรดใกล้ จึงทำให้งานทำแผนที่แหล่งน้ำโดยใช้รีโมทเซนซิง ทำได้ง่ายในช่วงคลื่นดังกล่าว น้ำใสจะมีการดูดกลืนพลังงานเล็กน้อยที่มีช่วงคลื่นสั้นกว่า0.6 ไมครอน แต่จะมีการส่งผ่านพลังงานสูงมากในช่วงคลื่นสีน้ำเงิน เขียว และสะท้อนแสงต่ำมากในช่วงคลื่นที่มองเห็นได้ หากน้ำมีความขุ่นก็จะมีผลทำให้การส่งผ่านความร้อน และการสะท้อนแสงเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เช่น น้ำที่ประกอบไปด้วยตะกอนที่เกิดจากการพังทลายของดิน ทำให้มีค่าสะท้อนแสงสูงขึ้นในช่วงคลื่นที่มองเห็นได้มากกว่าน้ำใสที่อยู่ใน แหล่งเดียวกัน


     แหล่งที่มา : อ.ดร.นฤมล อินทรวิเชียร

http://www.rmutphysics.com/charud/oldnews/201/sattlelite/18_files/rs_00005.gif
http://www.ee.eng.cmu.ac.th/~tharadol/teach/912706/geo_03.pdf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น